
ที่บริเวณศาลาประชาคมเฉลิมพระเกียรติ ข้างศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มชาวบ้านชาวชุมชนริมคลองท่าไข่ ชุมชนตลาดสดบ่อบัว จำนวน 30-40 คน ได้เดินทางมารวมตัวพร้อมชูแผ่นป้ายกระดาษเขียนข้อความร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ช่วยคืนความสุขแก่ประชาชน
สำหรับกลุ่มชาวบ้านดังกล่าวได้อาศัยอยู่บนที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย มาอย่างยาวนานเกือบร้อยปี แต่ในปัจจุบันได้ถูกกลุ่มนายทุนซึ่งอ้างว่าได้กรรมสิทธิ์จากการเป็นผู้เช่าที่ดินจากการรถไฟฯ เข้ามาทำการขับไล่ชาวบ้านให้ออกไปจากพื้นที่
การไล่ที่ของนายทุนโดยส่งชายฉกรรจ์ จำนวนนับ 10 คน เข้ามาทำการข่มขู่ชาวบ้านให้ยอมรื้อถอนบ้านเรือนออกไปแบบรายวัน เพื่อแย่งชิงที่ดินผืนดังกล่าวจากชาวบ้านซึ่งเป็นบ้านเรือนพักอาศัย เพื่อนำไปเตรียมการก่อสร้างเป็นศูนย์การค้าแห่งใหม่
สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวนั้น ได้ใช้พฤติกรรมเชิงข่มขู่ และมีการพกพาอาวุธปืนเข้าไปในชุมชนเพื่อให้ชาวบ้านเกรงกลัว จนชาวบ้านที่กำลังได้รับความเดือดร้อนดังกล่าวได้รวมตัวกันเข้ามาชุมนุมเพื่อร้องเรียนไปยังนายกรัฐมนตรี ผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดในวันนี้
นางพวงแก้ว มหาผลศิริกุล อายุ 80 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ถ.ริมคลองท่าไข่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ได้ปลูกบ้านเรือนอาศัยอยู่ในที่ดินแปลงนี้มานานตั้งแต่เมื่อก่อนยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นอีกด้วย และได้เคยจ่ายค่าเช่าที่ดินให้แก่ทางการรถไฟฯ มาโดยตลอด
ล่าสุด เมื่อหลายปีก่อนยังได้จ่ายค่าเช่าที่ดินให้ในราคา 4-5 พันบาทต่อปี แต่มาภายหลังก่อนที่จะมีการเข้ามาดำเนินการขับไล่ที่ของกลุ่มนายทุน ทางการรถไฟฯ กลับไม่ยินยอมที่จะรับค่าเช่าที่ดินจากชาวบ้าน
“เห็นนายกฯ บอกจะช่วยเหลือคนจนเราก็ดีใจ แต่สิ่งที่เราได้รับอยู่ในขณะนี้คือเราเดือดร้อนมาก จากนายทุนที่เข้ามาข่มขู่เราให้รื้อบ้านเรือนที่อยู่อาศัยออกไป และยังบอกอีกว่า หากไม่รื้อก็จะนำรถแทรกเตอร์มาไถบ้านทิ้งลงคลองไปให้หมด จนเพื่อนบ้านซึ่งเป็นคนแก่เช่นเดียวกัน ถึงกับเป็นลมล้มพับช็อกเสียชีวิตไปแล้ว 1 คน เพราะเกรงว่าจะไม่มีที่อยู่อาศัย โดยเพิ่งเผาศพไปได้เพียงแค่ 2 วันที่ผ่านมานี่เอง” นางพวงแก้ว กล่าว
นางพวงแก้ว กล่าวว่า อยากร้องขอไปถึงยังนายกรัฐมนตรี ขอให้เข้ามาดูปัญหาตรงนี้บ้าง หากจะไล่เราก็ขอให้ช่วยหาที่อยู่ให้เราใหม่ด้วย ไม่ใช่จะไล่ให้เราออกไปแล้วกลับจะไม่รับผิดชอบอะไร แล้วจะให้เราไปอยู่กันที่ไหน เพราะพวกเราขุดรูอยู่ไม่ได้
จึงอยากจะขอให้นายกฯ รับรู้เรื่องนี้บ้าง มาช่วยดูประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอย่างมาก เพราะหากจะไล่ชาวบ้านทั้งหมดอย่างน้อยก็ต้องมีผู้ที่จะได้รับความเดือดร้อนมากถึง 4-5 ร้อยหลังคาเรือน ที่ต้องพากันเดือดร้อน เพราะเราจนเราจึงต้องอยู่อย่างนี้ถ้าชาวบ้านรวยก็คงไม่มาอยู่ในสถานที่อย่างนี้หรอก
ด้าน นายสมศักดิ์ กฐินหอม นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ รักษาราชการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าชาวบ้านได้พากันมาร้องเรียนว่ามีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปข่มขู่ให้ชาวบ้านรื้อบ้านออกจากที่ดินของทางการถไฟฯ ซึ่งชาวบ้านอาศัยอยู่มานานแล้ว
เมื่อได้ทำการสอบถามไปที่ทางการรถไฟฯ ได้เข้ามาเก็บค่าเช่าหรือไม่นั้น ได้รับคำตอบว่าไม่ได้มาจัดเก็บ และเมื่อสอบถามว่ามีใครมาเก็บค่าเช่าหรือไม่ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มี แต่ได้มีวัยรุ่นเข้ามาข่มขู่ว่าให้ออกจากที่ดินตรงนี้ และยังได้มีการอ้างถึงผู้มีอิทธิพลเพื่อให้ชาวบ้านเกรงกลัวยอมรื้อถอนออกไป เพื่อที่พวกเขาจะนำที่ดินไปสร้างเป็นศูนย์การค้าฯ
ทางพัฒนาสังคมก็ต้องไปขอต่อรองให้ชาวบ้านได้อยู่ต่อไปอีกสักระยะหนึ่งก่อน หรืออย่างน้อยประมาณ 1-2 ปี เพื่อให้มีโครงการบ้านมั่นคงเกิดขึ้นมารองรับ เพื่อให้ชาวบ้านไปสร้างที่อยู่อาศัยใหม่ ซึ่งเดิมในชุมชนบ่อบัวนั้น ได้มีชาวบ้านประมาณ 170 ครอบครัว จากทั้งหมด 220 ครอบครัว ได้ยอมรื้อถอนบ้านเรือนออกไปก่อนแล้ว และไปอยู่ในโครงการบ้านมั่นคงในเขตพื้นที่ อบต.บ้านใหม่ แถบย่านวัดสายชล ณ รังสี แต่ส่วนชาวบ้านกลุ่มนี้ซึ่งเป็นชุมชนริมคลองท่าไข่นั้นยังไม่มีบ้าน หรือเข้าไปอยู่ในจุดนั้น
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า พัฒนาสังคมฯ ก็จะได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ที่ถูกอ้างถึงอีกด้านหนึ่งว่ามีชาวบ้านได้เข้ามาร้องเรียนว่ามีการข่มขู่นั้นเป็นอย่างไร และใช้สิทธิอะไรในการเข้ามาไล่ที่ เพราะที่ดินแปลงนี้เป็นของการรถไฟฯ หรือหากเป็นผู้เช่าจากการรถไฟฯ จริง ก็ต้องมีเงื่อนเวลาให้แก่ชาวบ้านได้อยู่ต่อไปก่อน และจะต้องแจ้งให้ชาวบ้านทราบกันก่อนล่วงหน้า และต้องมีกำหนดการที่ชัดเจนเพื่อให้ชาวบ้านได้มีการเตรียมตัวก่อนรื้อถอน หรือย้ายที่อยู่ต่อไป
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีการนัดหมายให้ชาวบ้านนั้นส่งตัวแทนในการนำเรื่องดังกล่าวเข้าไปพูดคุยกันกับ นายกลยุทธ ฉายแสง นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้นำท้องถิ่นในวันศุกร์ที่ 24 ต.ค.57 เวลา 13.00 น. เพื่อหาทางออกในเรื่องดังกล่าวต่อไป ก่อนที่ชาวบ้านจะยินยอมสลายตัวกลับไปในที่สุด
ข้อมูลจาก.ผู้จัดการ